อย่าละเลยการฝึกปราณายามะ และ การเข้าเรียนคอร์ส Basic Pranayama (ลมปราณพื้นฐาน) สำคัญกว่าการฝึกอาสนะ หรือ ท่าโยคะ หรือการโฟล์ว คือ การฝึกลมหายใจในรูปแบบ เพราะการฝึกอาสนะนั้นอาศัยกำลังภายในมาก การฝึกปราณายามะเป็นเหมือนการฝึกออกกำลังภายใน หากหายใจไม่ได้ ฝืนหายใจ และคิดว่าการหายใจในรูปแบบเป็นเรื่องง่ายๆ ไม่สนใจการเรียนพื้นฐานลม สิ่งที่ตามมาคือ (1) อึดอีดมาก ฝึกยังไงก็จะยังตึง (Muscle spindle คือตัวที่ส่งสัญญาณไปที่สมอง ถ้าเราทำท่าแล้วมันเครียด ไม่ผ่อนคลาย Spindle จะไม่ไปบอกสมองว่า สิ่งที่เราทำมันดี ในขณะเดียวกัน สมองจะตอบกลับด้วย Stretch reflex ทำให้เราไปต่อไม่ได้ ดึงกล้ามเนื้อเรากลับ บางท่านรุนแรงจนเป็นตะคริว) (2) ลมหายใจออกที่สบาย ทำให้เราผ่อนคลายได้ พอร่างกายผ่อนคลายได้ในท่า spindle จะส่งสัญญาณไปบอกสมอง สมองจะคิดว่า อ๋อนี่คือสิ่งที่ดี เค้าจะอนุญาตให้เราคลายกล้ามเนื้อได้ ถ้าทำท่าไม่เหมือนครู ก็ไม่ต้องเหมือนครู เพราะร่างกายเราไม่เหมือนกัน เอาเข่าเตะหน้าผากไม่ถึง ก็เอาแค่ครึ่งนึง ให้ร่างกายได้รับรู้ก่อน ผ่านไป 10-30 คลาส ร่างกายจะเปลี่ยนชัดเจนมากขึ้น ปล. แนะนำให้ฝึกคอร์สลมปราณพื้นฐาน 3 รอบเป็นอย่างน้อย รอบแรกอาจจะงง รอบที่สองเริ่มเข้าใจ รอบที่สามจับจุดได้ หลังจากนั้นการฝึกลมในคลาสอื่นๆมันจะเริ่มง่ายขึ้นนะคะ แล้วพบกันในคลาสค่า โบ

อาชีพเป็นผู้ช่วยพยาบาลแต่ตอนนี้ว่างงาน เมื่อต้นปีนี้ไปเรียนเป็นครูโยคะที่โรงเรียนบางกอกโยคะ ช่วงนี้เป็นช่วงฝึกฝนให้ได้ความรู้ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติให้ได้ดีค่ะเพื่อที่จะได้นำไปถ่ายทอดได้ถูกต้อง มาเจอแนวการสอนครูโบโบ๊ตแล้วชอบค่ะ❤️

สวัสดีค่ะ แคปบาดเจ็บเรื้อรังจากการฝึกท่ายืนด้วยศรีษะเพราะขึ้นเองด้วยลมหายใจไม่ได้เลยกระโดด จนกระดูกคอเสื่อมบาดเจ็บเรื้อรังมา 1 ปี เป็นไทรอยด์พิษด้วยค่ะ (ใช้โยคะบำบัด) เจออาการช่วงที่เรียนเพื่อเป็นครูโยคะทั้งหมดเลยค่ะ ยังฝึกบางท่าไม่ได้เลยค่ะ ท่าพับตัวหน้าผากยังไม่แตะเข่าเลยค่ะ ไม่อยากฝืนจนต้องเจ็บตัวอีก อยากพัฒนาตัวเองจะได้ส่งต่อให้คนอื่นๆได้เข้าท่าได้ถูกต้อง ขอเรียนรู้ไปด้วยคนนะคะ ขอบคุณค่ะ

วันก่อนผมได้ฟังเรื่องราวของครูโยคะท่านหนึ่ง ได้เริ่มสอนบำบัดกลุ่มครอบครัว ครูเล่าให้ฟังว่า มาจากเรื่องที่ผ่านมากับตัว ผมฟังแล้วรู้สึกประทับใจมาก เลยระลึกได้ว่า เกือบทุกสิ่งที่พวกเรากำลังแสวงหา "คุณค่า" ภายใน ล้วนมาจาก "ความปรารถนาที่เราอยากเติมสิ่งนั้นให้กับตนเอง" ตรงนี้คือ "รากของจิตวิญญาน" เมื่อเราส่งมอบความปรารถนานั้น ให้สมบูรณ์ในชีวิตอื่น ถือว่า เราได้เติมเต็มรากทางจิตวิญญานของเราแล้ว รากนี้เองที่เป็นต้นไม้ใหม่ ที่จะปลูกต้นไม้ทางธรรมให้สำเร็จ สมบูรณ์ ได้ในอนาคต 🙏🙏